วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

โชคชะตา...พาให้พบเจอ‏



มีชายหญิงคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา 3 ปี ทั้ง 2 ตกลงจะแต่งงานกัน เมื่อกำหนดวันเรียบร้อย ฝ่ายชายเองก็รอคอยวันที่จะแต่งงาน ต่อมาไม่นานฝ่ายชายรู้ข่าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นอย่างกะทันหัน โดยฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับแต่อย่างใด เมื่อได้ทราบข่าว เขาทั้ง งง และ เสียใจ มาก ร้องไห้ไม่กินไม่นอน ไม่นานก็ป่วยหนักเพราะตรอมใจ

เวลาผ่านไป ฝ่ายชายป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆไปหาหมอเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้น ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้านนั้น มีหลวงตาแก่ๆผ่านมา เมื่อมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน แล้วมองเข้าไปในบ้านจึงเคาะประตู

เด็กรับใช้ออกมาเปิดประตูพบว่า เป็นพระ จึงบอกว่า ไม่ทำบุญนิมนต์ข้างหน้า

หลวงตายิ้มอย่างมีเมตตาแล้วพูดว่า อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาต ในบ้านมีคนป่วยใช่มั้ย อาตมาพอมีความรู้ทางด้านการแพทย์นิดหน่อย ไม่รู้จะพอช่วยได้รึปล่าว

เด็กรับใช้ได้ฟังก็อึ้งแต่ก็บอกว่าตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องขอไปถามเจ้านายก่อน เด็กรับใช้เดินเข้าไปในบ้านถามเจ้านาย เจ้านายตอบอย่างตัดรำคาญว่าอยากเข้ามา ก็เข้ามา!

เมื่อหลวงตาเข้าไปพบที่ห้องนอนพบว่า ชายคนดังกล่าวนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่บนเตียง สีหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอมประหนึ่งครึ่งคนครึ่งศพ

เด็กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้างๆเตียงของชายคนนั้น

หลวงตายิ้มแล้วพูดว่าอาการหนักเลยนะ ชายคนนั้น นิ่งเงียบไม่สนใจในสิ่งที่หลวงตาพูด หลวงตาตรวจอาการพอเป็นพิธี จึงกล่าวว่า โทรมมากเลยนะ

ชายคนนั้นไม่สนใจ หลวงตาบอกว่าไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกสิ ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจกแต่งตัวในห้องนอน เขามองเห็นภาพของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานภาพของคนรักก็ค่อยๆจางหายไป กลายเป็นภาพทิวทัศน์ชายทะเล

ที่ชายทะเลแห่งนั้นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมา ขณะที่ชายคนที่ป่วยนั้น มองภาพในกระจกด้วยความสนใจนั้น เขาพบว่า มีศพหญิงสาวนอนเปลือยกายอยู่ที่ชายหาด เวลาผ่านไปสักครู่

มีชายคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพหญิงคนนั้นด้วยความรังเกียจ แล้วเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมาพักใหญ่มีชายอีกคนหนึ่งเดินผ่านมา เขามองเห็นศพนั้น เขาสงสารจึงถอดเสื้อนอกออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วเดินจากไป

พักใหญ่ๆอีกเช่นกัน มีชายอีกคนเดินผ่านมา เขาพบคนนอนมีผ้าคลุมอยู่ จึงเปิดออกดู เมื่อพบว่า เป็นศพ ด้วยใจสงสาร จึงจะฝังให้เรียบร้อย แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด เขาจึงตัดสินใจใช้มือทั้ง 2 ข้างๆ ค่อยๆกอบทรายขึ้นมา เขาทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนเย็น พอได้หลุมใหญ่พอสมควร จึงได้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้วจากไป

จากนั้นภาพในกระจกก็เปลี่ยนเป็นภาพของศพหญิงคนนั้น และก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นภาพของหญิงคนรัก เขาได้เห็นก็ตกใจ

พอสักพัก ก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 แล้วก็ค่อยๆจางหายไป เหลือแต่เงาของตัวเองในกระจก ทันใดนั้นหลวงตาพูดว่า ทีนี้เข้าใจรึยัง ศพนั้นคือคู่รักของโยม ชายคนที่ช่วยฝังศพเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอเลยแต่งงานกับเขา ส่วนโยมช่วยคลุมศพเธอ จึงผูกวาสนา 3 ปี ตอนนี้ครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้วก็ต้องจากกัน


เมื่อชายคนนั้นฟังจบก็กระอักเลือดออกมา เด็กรับใช้ตกใจมาก หลวงตายิ้มแล้วบอกว่า โยมรอดแล้ว เมื่อกี้โยมกระอักเลือดเอาเลือดเสียออกมาแล้ว ต่อมาไม่นานชายคนนั้นก็ได้ออกบวชในที่สุด


คนเราเจอกัน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ความสัมพันธ์ พ่อ , แม่ , พี่ , น้อง , ญาติ , เพื่อน , ศัตรู , คนรัก ฯลฯ ไม่ใช่ของเลื่อนลอย

เมื่อมีวาสนา ไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน รั้งยังไงก็ไม่อยู่ ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณทำได้ทำดีต่อคนของคุณหรือยัง เพราะถึงเวลาที่ต้องจากกัน ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำนาจล้นฟ้า ก็เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้ ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้ว่า เราจะต้องจากกันเมื่อ

" เวิร์คไหมถ้าเปลี่ยนเพื่อนให้เป็นแฟน "



วันหนึ่งเราก็เริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขา เราจะดูอย่างไรว่าเขาไม่ได้คิดกับเราแค่เพื่อน
ผู้ชายน่ารักคนนี้เป็นแค่เพื่อนกันมานานนม แล้ววันหนึ่งเราก็เริ่มมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวเขา เกิดนิมิตขึ้นมาว่าเพื่อนชายคนนี้ละ ใช่เลย จากเพื่อนซี้ขอเขยิบฐานะขึ้นมาเป็นแฟนได้ไหมจ้ะ
ถ้าเขาชอบเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็มีโอกาสสำเร็จ แต่เนื่องจากมีบางอย่างขวางกั้นเอาไว้ไม่ให้มิตรภาพเกินเลยไปกว่านั้น ต่างฝ่ายต่างก็ไปออกเดทกับคนอื่น โดยที่ไม่เคยนึกถึงกันในแง่ชู้สาวเลย อาจเพราะปัจจัยหลายอย่างที่แตกต่างกัน เช่น อายุ บุคลิกภาพ หรือภูมิหลังในชีวิต
เราจะดูอย่างไรว่าเขาไม่ได้คิดกับเราแค่เพื่อน
วนเวียนอยู่ใกล้
ข้อสังเกตง่ายๆถ้าเขาคิดเกินเพื่อน เขาจะชอบโผล่มาที่บ้านแล้วบอกว่าบังเอิญมาทำธุระแถวนี้ ชอบมานั่งดูทีวีรายการโปรดที่บ้านเรา ชอบมาตั้งโปรแกรมทีวีให้ ถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานก็จะแวะมาดื่มน้ำเย็นตรงคูลเลอร์ใกล้โต๊ะเรา ถ้าเป็นเพื่อนเรียนมหาวิทยาลัย ก็จะมาเดินเตร็ดเตร่แถวหอพักหรือในโรงอาหารที่เราอยู่เป็นประจำ
กฎธรรมดาโลกคือ เวลาผู้ชายมาติดเนื้อต้องใจเรา เขาจะหาเหตุเข้ามาอยู่ใกล้ๆเราเท่าที่ทำได้ วนเวียนไม่ยอมไปไหน คิดกำจัดให้พ้นหูพ้นตาก็ไม่สำเร็จเสียด้วย
ปกปิดชีวิตรัก
เขาจะไม่เอ่ยถึงหญิงอื่นให้ระคายหูแม้ว่ากำลังเดทคนอื่นอยู่ก็เถอะ แถมยังทำท่าเหมือนมองไม่เห็นผู้หญิงอื่นในสายตาต่อให้สวยเซ็กส์เอ็กซ์อึ๋ม ขนาดไหน ซึ่งในความเป็นจริงเขาอาจกำลังปิ๊งหญิงอื่น และบอกให้ทุกคนรู้ยกเว้นเราคนเดียว
ขณะที่ปกปิดชีวิตรักตัวเอง เขาก็จะอยากรู้เรื่องของเรา และถามนู่นถามนี่วุ่นวายไปหมด อยากรู้ว่าเราชอบผู้ชายแบบไหน อยากทำอะไรในคืนวันเสาร์ เวลาถามก็จะทำเสียงเหมือนชวนคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่ความจริงเก็บข้อมูลเอาไปใช้ในวันข้างหน้า และจะให้ความเห็นว่าคนที่เราเดทด้วยไม่ได้เรื่องสักคน เจ้าเล่ห์ไหมละ
เสนอตัวช่วยเหลือ
เขาจะพยายามเข้ามาช่วยเหลือทุกเรื่องเท่าที่ทำได้ บางครั้งเสนอตัวก่อนเราเอ่ยปากด้วยซ้ำ แถมยังนั่งฟังเราและเพื่อนๆระบายความในใจโดยไม่คาดหวังสิ่งตอบแทน ในทางกลับกันเขาจะไม่คาดหวังความช่วยเหลือใดๆจากเรา ขอแค่ให้ได้ติดต่อกับเราไว้ก็พอ
ถ้าชอบเราเกินเพื่อน เขาจะคอยยั่วเย้ากระเซ้าแหย่ทีเล่นทีจริง คอยทำให้เราหัวเราะ เขามักมองเห็นความน่ารักของเรา และหมายความเกินกว่าที่พูดเสมอ แต่พยายามทำเป็นสุขุมนุ่มลึกแต่จริงๆแล้วตื่นเต้นสุดๆเลยเชียว
ถ้าเขาคิดแค่เพื่อน
ในกรณีที่ไม่ได้สนใจเราเกินกว่าความเป็นเพื่อน เขาจะสงบ สม่ำเสมอ พูดตรงไม่มีอ้อมค้อม ขอคำแนะนำเกี่ยวกับผู้หญิงอื่น ไม่แอบซ่อนปิดบังเรื่องความรัก เขาจะเล่าและขอคำปรึกษาอย่างจริงจัง แถมยังเอ่ยชมผู้หญิงอื่นต่อหน้าโดยไม่คิดว่าเป็นการทำร้ายความรู้สึกของเรา ก็เพราะเราเป็นเพื่อนของเขานี่นา หรือไม่ก็รู้สึกเหมือนเราเป็นพี่สาวหรือน้องสาว ไม่มีอารมณ์ชู้สาวมาเกี่ยวข้องแน่นอน
เขาจะไม่สนใจชีวิตรักของเรา พอใจแค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น ถ้าเรายังไม่มีคนควง เขาอาจแนะนำหนุ่มอื่นให้ แต่ไม่ใช่ตัวเขาเองแน่ เขาไม่ต้องการความสัมพันธ์มากเกินกว่านี้ เพราะไม่รู้สึกอะไรกับเราในแง่นั้นเลย
ถ้าเรามีปัญหากับหนุ่มที่กำลังคบกันอยู่ เขาจะช่วยแก้ปัญหาแต่ไม่ใช่ยุยงให้เลิกรากัน เขาไม่โกรธเวลาเห็นเราอยู่กับชายอื่น เขาอยากเห็นเรามีความสุข หากเขาอิจฉาเวลาเรามีแฟน มันก็เหมือนเพื่อนผู้หญิงสุดซี้ที่อิจฉาเวลาเราไปมีแฟนนั่นแหละ เพื่อนถูกแฟนแย่งเวลาไป...ก็แค่นั้น
ในฐานะเพื่อน เขาจะช่วยเหลือเราเท่ากับที่เราช่วยเหลือเขา คบกันไปคบกันมาอาจซี้กว่าเพื่อนผู้หญิงก็ได้ หากแน่ใจแล้วว่าเขาเห็นเราเป็นแค่เพื่อน ก็คงไม่มีโอกาสยกระดับเป็นแฟนได้หรอก อย่าพยายามด้วยการจับเข่าคุยเปิดอกถึงความรู้สึกในใจของเรา มิตรภาพอาจสะดุดและเกิดความกดดันขึ้นมาได้ เขาจะรู้สึกเก้อกระดากอึดอัด แต่ก็ยังไม่พิศวาสเราอยู่ดี ยิ่งถ้าเสนอให้ลองมีอะไรกัน เหตุการณ์จะยิ่งเลวร้าย เพราะการหลับนอนครั้งนี้จะไม่มีความประทับใจเลย แถมเรายังต้องมานั่งเสียใจภายหลังอีกด้วย
อย่าฝืนถ้าเขาไม่พิศวาส
เหตุการณ์ยิ่งแย่หนักหากเราและเขาตัดสินใจออกเดทหรือแต่งงานตามความต้องการ ของเรา และเขาก็ยังไม่รู้สึกอะไร การแต่งงานจะกลายเป็นฝันร้าย เราจะเริ่มสูญเสียความมั่นใจในตัวเองว่า ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกอะไรเลย ต้องทนใช้ชีวิตกับผู้ชายที่ต้องการแค่ความเป็นเพื่อน แล้วจะยอมมามีชีวิตแบบนี้เพื่ออะไรกันเล่า
กฎกติกามารยาทคือ ถ้าเขาไม่ชอบเราก็อย่าพยายามทำให้เขาชอบ ชีวิตทั้งชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ชายคนนี้เท่านั้น อย่าโทรหาเขา ถ้าเขาโทรมาอย่าคุยเกินสิบนาที อย่าทำตัวเป็นศิราณีแก้ปัญหาหัวใจให้เขา พยายามคบหาผู้ชายอื่น ผลักดันตัวเองออกงานสังคมเผื่อจะได้เจอว่าที่สามีในอนาคต ดีกว่ามายุ่งอยู่กับคนที่เป็นได้แค่เพื่อน
หากยังไม่แน่ใจ
แต่ถ้ารู้สึกว่าเขาอาจสนใจเรา ลองบอกหรือแสดงตัวว่ากำลังมีปัญหากับแฟนหรือตอนนี้หัวใจกำลังว่าง แล้วดูปฏิกิริยา ถ้าเขาสนใจเราเขาจะเอ่ยปากชวนเดทแน่นอน
อย่าคุยกับเขาเหมือนเพื่อน ทำตัวให้เป็นผู้หญิง นุ่มนวลอ่อนโยนลึกลับ อย่าเล่าปัญหาทั้งหมดให้เขาฟัง อย่าจู่โจมด้วยการโทรศัพท์ ฝากข้อความหรือชวนดินเนอร์ อย่าคิดว่าสามารถทำหรือพูดอะไรที่ต้องการได้ตามใจ เช่น โทรหาทุกครั้งที่ต้องการ หรือพยายามใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากกว่าเดิม โดยอ้างว่า นี่คือความรักแบบเพื่อน ถ้าเขาเคยแวะมานอนค้างคืนบนโซฟาเพราะขี้เกียจขับรถดึกๆ ก็อย่าปล่อยให้เกิดขึ้นอีก พยายามตัดบทว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าหรืออะไรก็ได้ อย่าเผลอไผลปล่อยเลยตามเลยเด็ดขาด
สาวบางรายชอบมากจนระงับใจไม่ได้ เลยใช้วิธีเดินหน้าลูกเดียว โทรหาเขาตลอดเวลาที่ว่าง คุยเรื่องการเปลี่ยนใจจากเพื่อนมาเป็นคนรัก ชวนเขามาเป็นแฟนแบบเต็มตัว พูดเรื่องแต่งงานและอนาคตร่วมกัน แค่นี้เขาก็เผ่นไม่เหลียวหลัง ผู้ชายไม่ชอบอะไรที่มากเกินไปแบบนี้ ต่อให้เป็นผู้หญิงที่เขาชอบก็เถอะ
ยังมีผู้หญิงอีกเยอะที่วันหนึ่งตื่นเช้าแล้วตัดสินใจว่า เพื่อนชายที่คบกันอยู่ทุกวันคือแฟนตัวจริงที่รู้ใจเหลือเกิน ความรู้สึกรุนแรงเสียจนแทบทนไม่ไหว ควรตรึกตรองให้ซึ้งว่า เหตุผลหนึ่งที่เขาคบเราก็เพราะเราไม่เข้าไปยุ่งกับชีวิตเขามากนัก นี่เป็นสถานการณ์ละเอียดอ่อนต้องใช้เวลาปรับตัวอีกนาน
ทั้งนี้และทั้งนั้นถ้าตัดสินใจออกเดทกับเพื่อน ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ของแบบนี้ต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ใจ
ขอขอบคุณ :♥ เ ซ ง า ♥